สูตรทำปุ๋ยหมัก ช่วยลดขยะแถมบำรุงดิน
สูตรทำปุ๋ยหมัก ช่วยลดขยะแถมบำรุงดิน อย่างที่รู้กันดีว่าตอนนี้ประเทศไทยมีปัญหาเกี่ยวกับปริมาณขยะที่เพิ่มขึ้นและปัญหาการจัดการขยะที่ยังไม่สามารถจะนำมาใช้ในการจัดการขยะที่เกิดขึ้นหลายล้านตันได้ ซึ่งหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนจึงได้มีการรณรงค์ให้ทุกคนช่วยลด คัดแยก และแนะนำวิธีการนำขยะกลับมาใช้ประโยชน์
ทั้งนี้ จากการเก็บรวบรวมข้อมูลของกรมควบคุมมลพิษ พบว่า ในบรรดาขยะมูลฝอยทั้งหมดนั้น ขยะอินทรีย์หรือขยะย่อยสลายถือเป็นประเภทขยะที่มีอยู่มากที่สุด และมีจำนวนเกินครึ่งของจำนวนขยะทั้งหมด ฉะนั้นถ้าหากเราสามารถลดปริมาณขยะประเภทนี้ลงไปได้
ก็จะช่วยลดปริมาณขยะมูลฝอยรวมตามลงไปด้วยเหมือนกัน และหนึ่งในวิธีกำจัดขยะประเภทนี้ก็คือ การนำไปทำเป็นปุ๋ยหมักสำหรับบำรุงดินและปลูกต้นไม้ ส่วนเศษขยะชนิดใดนำมาทำปุ๋ยได้บ้าง วิธีการเป็นอย่างไร แล้วมีประโยชน์ต่างจากปุ๋ยเคมีมากน้อยแค่ไหน ตามมาดูกันได้เลย
สูตรทำปุ๋ยหมัก ช่วยลดขยะแถมบำรุงดิน

1. วิธีทำปุ๋ยหมักจากเศษอาหาร
วัสดุและอุปกรณ์
- เศษอาหารแห้ง เช่น เศษข้าว เศษขนมปัง ก้างปลา เปลือกไข่ เปลือกผลไม้ 1 ส่วน
- มูลสัตว์ เช่น ขี้วัว ขี้ไก่ ขี้ม้า 1 ส่วน
- ใบไม้ 1 ส่วน
- ถังขนาด 20 ลิตร
- ตาข่ายกันแมลง
วิธีทำ
- นำถังขนาด 20 ลิตร มาเจาะรูไว้รอบถังแล้วใช้ตาข่ายกันแมลงพันให้รอบ เพื่อช่วยระบายอากาศและป้องกันแมลงรบกวน
- ผสมเศษอาหารแห้งที่มีขนาดเล็กและไม่มีน้ำ เช่น เศษข้าว เศษขนมปัง ก้างปลา เปลือกไข่ และเปลือกผลไม้ เข้ากับมูลสัตว์ เช่น ขี้วัว ขี้ไก่ ขี้ม้า และเศษใบไม้ ในอัตรา 1:1:1 ส่วน
- คลุกเคล้าให้เข้ากันแล้วปิดฝาให้สนิท ถ้าหากวันต่อไปมีเศษอาหารเพิ่ม ก็นำมาเติมเข้าไปได้ แต่อย่าลืมผสมในอัตราส่วนเท่าเดิมด้วย
- พลิกกลับส่วนผสมวันละ 1-2 ครั้ง เป็นประจำทุกวัน
** ในช่วงแรกไม่จำเป็นต้องเติมน้ำ เพราะเศษอาหารมีความชื้นอยู่แล้ว แต่เมื่อเห็นว่าส่วนผสมเริ่มแห้งลง ก็สามารถพรมน้ำเข้าไปได้เล็กน้อย โดยจะใช้เวลาในการหมักประมาณ 1 เดือน ก็จะได้ปุ๋ยหมักสีดำขนาดเล็ก ที่แห้งสนิทและไม่มีกลิ่นเหม็นไว้ใช้บำรุงต้นไม้แล้ว **

2. วิธีทำปุ๋ยหมักจากต้นกล้วย
วัสดุและอุปกรณ์
- หน่อกล้วย 3 ส่วน
- กากน้ำตาล 1 ส่วน
- น้ำมะพร้าวอ่อน
- น้ำสะอาด
- บัวรดน้ำ
วิธีทำน้ำหมักจุลินทรีย์
- ทำน้ำหมักจุลินทรีย์ชีวภาพก่อน โดยนำหน่อกล้วย 3 ส่วนมาสับเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วผสมให้เข้ากันกับกากน้ำตาล 1 ส่วน
- เทน้ำมะพร้าวอ่อนลงไปให้พอท่วม ปิดฝาให้แน่นสนิทเพื่อไล่อากาศ 1 วัน แล้วรอประมาณ 10-15 วัน ค่อยนำมากรองใส่ขวดพร้อมเก็บไว้ในที่ร่มเพื่อรอใช้งาน
วิธีทำปุ๋ยหมัก
- นำหน่อกล้วยสับละเอียด 3 ส่วน กากน้ำตาล 1 ส่วน และน้ำมะพร้าวอ่อนมาผสมกัน
- นำน้ำหมักจุลินทรีย์ กากน้ำตาล และน้ำใส่ลงไปในบัวรดน้ำ
- นำไปรดให้ชุ่มกองส่วนผสมที่เตรียมไว้ คนให้เข้ากันจนกว่าจะกำแล้วก้อนไม่แตก
- นำส่วนผสมมาใส่ในกระสอบปุ๋ยโดยไม่ต้องมัดปาก แล้วนำไปวางไว้ในที่ร่มประมาณ 5-7 วัน ก็จะได้ปุ๋ยหมักที่หอม มีจุลินทรีย์และอินทรีย์ต่าง ๆ พร้อมแก่การนำไปใช้ประโยชน์ แต่ทางที่ดีอย่าลืมผสมปุ๋ยหมักกล้วย 1 ส่วน เข้ากับปุ๋ยคอก 10 ส่วน เพื่อประสิทธิภาพที่ดีด้วยล่ะ

3. วิธีทำปุ๋ยหมักจากฟางข้าว
วัสดุและอุปกรณ์
- ฟางข้าวหรือตอซังข้าว 500-1,000 กิโลกรัม
- น้ำหมักชีวภาพที่มีจุลินทรีย์มีชีวิต 5-10 ลิตรต่อไร่
- รถแทรกเตอร์
วิธีทำ
- เกลี่ยฟางข้าวให้กระจายทั่วแปลงนา จากนั้นปล่อยน้ำสะอาดเข้ามาในนาให้ระดับน้ำสูง 3-5 เซนติเมตร
- ใช้รถแทรกเตอร์กดให้ฟางข้าวจมน้ำ เสร็จแล้วนำน้ำหมักชีวภาพสูตรที่มีจุลินทรีย์รดให้ทั่วแปลงนา
** ถ้าใช้ฟางข้าวประมาณ 500-800 กิโลกรัม ให้ใช้น้ำหมัก 5 ลิตรต่อไร่ แต่ถ้าใช้ฟางข้าวประมาณ 800-1,000 กิโลกรัม ให้ใช้น้ำหมัก 10 ลิตรต่อไร่ หมักทิ้งไว้นานราว 10 วัน จนกระทั่งฟางข้าวและตอซังข้าวอ่อนนุ่มและย่อยสลาย หลังจากนั้นก็พรวนดินและเตรียมดินสำหรับปลูกข้าวได้ตามปกติเลย **

4. วิธีทำปุ๋ยหมักขี้วัว
วัสดุและอุปกรณ์
- มูลสัตว์ เช่น ขี้วัว ขี้หมู หรือขี้ไก่ 1,000 กิโลกรัม
- หินฟอสเฟต 25 กิโลกรัม
- ปุ๋ยยูเรีย 2 กิโลกรัม
วิธีทำ
- นำมูลสัตว์มาหมักปรับความชื้น 50%
- นำมูลสัตว์ที่ได้ไปผสมหินฟอสเฟต (K. B. K. 0-3-0) และปุ๋ยยูเรีย (สูตร 46-0-0) เข้าด้วยกัน
- นำส่วนผสมข้างต้นใส่ลงในถังหมักพร้อมคลุมผ้าปิด รอประมาณ 1 เดือน ก็จะได้ปุ๋ยที่พร้อมแก่การใช้งาน
- หมั่นพลิกกลับกองปุ๋ยอย่างสม่ำเสมอ โดยจะแบ่งออกเป็น 4 ครั้ง ได้แก่ ครั้งแรกเมื่อหมักได้ 3 วัน ครั้งที่สองเมื่อหมักได้ 10 วัน ครั้งที่สามเมื่อหมักได้ 17 วัน และครั้งที่ 4 เมื่อหมักได้ 24 วันนั่นเอง
ขอแนะนำ 3 สูตรขนมปังเจ เนื้อนุ่มที่คุณต้องลองทำตาม! เชื่อว่าหลายคนคงได้ยินเกี่ยวกับเทศการของการกินเจกันมาบ้างแล้วใช่ไหมคะ ซึ่งเทศกาล กินเจ มีขึ้นทุกปีตามปฏิทินจีนคำว่าเจ ในภาษาจีนทางพระพุทธศาสนา หมายถึง สักการะบูชาด้วยความบริสุทธิ์ หรือการรักษาศีล 8 คือการไม่บริโภคอะไรหลังเที่ยงวัน และไม่บริโภคเนื้อสัตว์
อ่านบทความเพิ่มเติม ได้ที่ : บุรีรัมย์ เที่ยวไหนได้บ้างนะ?